
โดยทั่วไปแล้วหลายคนทราบดีว่าเหล็กธรรมดาทั่วไปแม้จะมีความคงทน แต่พื้นผิวก็ไวต่อความชื้นขึ้นสนิมได้ง่าย โดยเฉพาะอากาศในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกชุก แต่วัสดุเหล็กแผ่นก็ยังคงเป็นวัสดุยอดนิยมที่นำมาใช้กันในหลากหลายอุตสาหกรรม ในปัจจุบันจึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นเพื่อให้สามารถใช้งานได้เหมาะสมในหลากหลายรูปแบบ การเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากมีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานและประสิทธิภาพของโครงสร้างหรือผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ บทความนี้ทุกคนไปดูแนวทางในการเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย
การเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้จัดซื้อทุกคนควรศึกษาและหาข้อมูลก่อนจัดซื้อเหล็กแผ่น เนื่องจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ จะมีผลกระทบต่ออัตราการกัดกร่อนของโลหะ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของวัสดุ การพิจารณาความหนาของชั้นเคลือบสังกะสีจึงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยเพิ่มความทนทานและยืดอายุการใช้งานของเหล็กแผ่นเคลือบ โดยความพิเศษของเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีด้วยกรรมวิธีทางไฟฟ้าของ TCS นั้นสามารถนำไปใช้งานได้ใน
สภาพแวดล้อมในร่ม
ในกรณีของการใช้งานภายในอาคารที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น เช่น สำนักงาน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่มีความหนาของชั้นเคลือบประมาณ 20-25 ไมครอน ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากในสภาพแวดล้อมนี้มีโอกาสสัมผัสกับความชื้นและสารเคมีที่กัดกร่อนต่ำ การเลือกใช้ชั้นเคลือบที่บางกว่าจึงช่วยประหยัดต้นทุนได้โดยไม่ลดทอนความทนทาน
ประเทศไทยมีหลายพื้นที่ที่มีสภาพอากาศร้อนชื้นสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่เร่งการกัดกร่อนของโลหะ การเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่มีความหนาของชั้นเคลือบปานกลางถึงสูง (35-45 ไมครอน) จะช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านทานความชื้นและการกัดกร่อนได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับฝนและความชื้นบ่อยครั้ง เช่น ตู้ไฟฟ้า ตู้อุปกรณ์
พื้นที่ชายทะเลมีความเค็มและความชื้นสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้การกัดกร่อนของโลหะเกิดขึ้นเร็วขึ้น การเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่มีความหนาของชั้นเคลือบสูง (45-60 ไมครอน) จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากละอองน้ำเค็มและลมทะเล เหมาะสำหรับการใช้งานในโครงสร้างที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง
ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานที่ที่มีการสัมผัสกับสารเคมีและน้ำมัน เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ หรืออุปกรณ์ในโรงงานเคมี ควรเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่มีความหนาของชั้นเคลือบมากกว่าปกติ หรืออาจพิจารณาใช้เหล็กที่มีการเคลือบสีเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน การเลือกใช้วัสดุที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนสูงจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงในการซ่อมบำรุง
โดยทั่วไปมีวิธีการเคลือบสังกะสีที่นิยมใช้สองวิธีหลักคือ การเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (Hot-dip galvanization) และการเคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า (Electro-galvanization) ซึ่งแต่ละวิธีมีลักษณะและความเหมาะสมที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน
การเคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้าเป็นกระบวนการที่ใช้กระแสไฟฟ้าในการเคลือบสังกะสีลงบนพื้นผิวโลหะ ชั้นเคลือบที่ได้จะบางกว่าและมีความเรียบเนียน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสวยงาม และนำไปใช้ทำสี ข้อดีของการเคลือบด้วยไฟฟ้าคือความสวยงามและความเรียบเนียนของพื้นผิวที่สูงกว่า และสามารถเลือกชั้นเคลือบที่บางกว่าการเคลือบแบบจุ่มร้อน เพื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนต่ำหรือใช้งานภายในอาคาร เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ แผงวงจรและอุปกรณ์ที่ต้องการความละเอียดในการผลิต
การเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนเป็นกระบวนการที่เหล็กหรือโลหะถูกจุ่มลงในอ่างสังกะสีหลอมเหลวที่มีอุณหภูมิสูง ชั้นสังกะสีที่เคลือบจะมีความหนาและแข็งแรง ทำให้สามารถป้องกันการกัดกร่อนได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานสูง การเคลือบแบบจุ่มร้อนเหมาะสำหรับโครงสร้างเหล็ก เช่น เสา คาน และโครงหลังคา เนื่องจากสามารถทนทานต่อสภาพอากาศและการกัดกร่อนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ดี สามารถเผชิญกับสภาพอากาศที่หลากหลายและการกัดกร่อนจากฝนและความชื้น อย่างไรก็ตาม การเคลือบแบบนี้อาจไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความประณีตหรือความสวยงามสูง เนื่องจากชั้นเคลือบที่หนาอาจทำให้พื้นผิวไม่เรียบเนียน
การเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่เหมาะสมกับการผลิตและการประยุกต์ใช้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่นำไปผลิตออกมาอย่างเหมาะสมกับการใช้งานของ End User หากต้องการเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน ควรพิจารณาการเคลือบเพิ่มเติมด้วยเรซิ่นชนิดพิเศษที่ปราศจากโครเมต ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดสนิมและลายนิ้วมือ สำหรับการใช้งานที่ต้องการการทาสีเพิ่มเติม การเคลือบด้วยฟอสเฟต เพิ่มการยึดเกาะของสีบนพื้นผิวเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี ทำให้สีติดทนนานและสวยงาม ในบางอุตสาหกรรม เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือยานยนต์ อาจต้องการคุณสมบัติการนำไฟฟ้า การเลือกใช้เรซิ่นชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าได้จะเป็นประโยชน์ในการใช้งานเหล่านี้ โดยทางบริษัท เหล็กแผ่นเคลือบไทย จำกัด จะมีตัวเลือกการเคลือบ 3 รูปแบบ
เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่ไม่ผ่านกระบวนการเคลือบพิเศษทางเคมี มักใช้ในงานที่ไม่ต้องการคุณสมบัติพิเศษจากการเคลือบ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแค่ใช้คุณสมบัติทั่วไปของเหล็กแผ่นเคลือบ และต้องการต้นทุนการผลิตต่ำที่สุดเนื่องจากไม่ต้องผ่านกระบวนการเคลือบเคมี ทำให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า
การเคลือบด้วยเรซิ่นชนิดพิเศษที่ปราศจากโครเมตเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อนและป้องกันรอยนิ้วมือบนพื้นผิวผลิตภัณฑ์ เรซิ่นชนิดนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการเสื่อมสภาพจากปัจจัยภายนอก เช่น ความชื้นและสารเคมี เรซิ่นชนิดนี้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมีและสภาพอากาศที่รุนแรง พื้นผิวที่เคลือบด้วยเรซิ่นชนิดนี้จะมีคุณสมบัติในการลดการเกิดรอยนิ้วมือ
การเคลือบด้วยฟอสเฟตเป็นกระบวนการเตรียมพื้นผิวก่อนการทาสี ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะของสีและป้องกันการเกิดสนิม ชั้นฟอสเฟตช่วยให้สีที่ทาลงไปยึดเกาะได้ดีขึ้น ฟอสเฟตช่วยป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนของโลหะได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง
หากคลังสินค้ามีความชื้นสูงหรือมีสารเคมีในอากาศ ควรเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีที่ผ่านการเคลือบน้ำมัน ซึ่งจะช่วยป้องกันการกัดกร่อนจากความชื้นและสารเคมีได้ดี หรือหากต้องจัดเก็บเหล็กแผ่นเป็นเวลานาน ควรเลือกแบบที่เคลือบน้ำมันเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนในระยะยาว คลังสินค้าที่มีการระบายอากาศไม่ดีอาจทำให้ความชื้นสะสม ควรเลือกเหล็กแผ่นที่เคลือบน้ำมันเพื่อเพิ่มการป้องกัน ดังนั้นหากเหล็กแผ่นจะถูกนำไปใช้งานหรือเข้าสู่กระบวนการผลิตทันทีหลังจากการจัดซื้อ อาจไม่จำเป็นต้องเคลือบน้ำมัน เพราะการเคลือบอาจต้องทำความสะอาดก่อนการใช้งาน แต่หากต้องจัดเก็บเราแนะนำให้สั่งซื้อโดยเคลือบน้ำมัน
บทสรุป
การเลือกใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีให้เหมาะสมกับการใช้งานโดยเฉพาะเหล็กแผ่นเคลือบไทยเจ้าแรกในไทยด้วยการเคลือบผ่านกรรมวิธีทางไฟฟฟ้า ที่สามารถนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ภายในอาคาร เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั้งอุปกรณ์สำนักงาน และผลิตภัณฑ์ของ TCS สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดีด้วยการนำไปผลิตเป็นตัวถังน้ำมันยานยนต์ได้อีกด้วยเช่นกัน จะเห็นว่าเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีอยู่รอบตัวเรามาตลอดนั่นเอง